“บ้านถ้ำผึ้ง” ป่าแดนใต้ เที่ยวได้ไม่มีเบื่อ

เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ

สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้  มีหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงเรียงรายท่ามกลางทะเลอ่าวไทยจนกลายเป็นเกาะในฝัน สวรรค์ของคนรักทะเลทั้งชาวไทย และต่างชาติ อย่างเช่นเกาะสมุยเกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะนางยวน

ไม่เพียงหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่สวยงามเท่านั้น แต่ธรรมชาติป่าเขาที่สุราษฎร์ธานีก็งดงามไม่แพ้กันและเชิญชวนให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง

วันนี้จึงขอแนะนำสถานที่ดีๆ เที่ยวสุราษฎร์ธานีในอีกมุมมองเพียงมุ่งหน้าตรงไปยังชุมชนบ้านถ้ำผึ้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นยวน อำเภอพนมห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 80 กิโลเมตร หมู่บ้านเล็กๆ ที่ธรรมชาติโอบล้อมทั้งป่าเขา และลำน้ำ

เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ

สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้  มีหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงเรียงรายท่ามกลางทะเลอ่าวไทยจนกลายเป็นเกาะในฝัน สวรรค์ของคนรักทะเลทั้งชาวไทย และต่างชาติ อย่างเช่นเกาะสมุยเกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะนางยวน

ไม่เพียงหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่สวยงามเท่านั้น แต่ธรรมชาติป่าเขาที่สุราษฎร์ธานีก็งดงามไม่แพ้กันและเชิญชวนให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง

วันนี้จึงขอแนะนำสถานที่ดีๆ เที่ยวสุราษฎร์ธานีในอีกมุมมองเพียงมุ่งหน้าตรงไปยังชุมชนบ้านถ้ำผึ้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นยวน อำเภอพนมห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 80 กิโลเมตร หมู่บ้านเล็กๆ ที่ธรรมชาติโอบล้อมทั้งป่าเขา และลำน้ำ

ที่บ้านถ้ำผึ้งของผม มีคนมาเที่ยวตลอดครับ มาฤดูไหนก็สวย เพราะที่นี่อากาศดี มีป่าชุมชน มีน้ำตก มีถ้ำ มีจุดชมวิวดูหมอกตอนเช้า แล้วก็มีบ่อดันทรายดูดนักท่องเที่ยวชอบที่นี่มากครับ

ธันวา หรือ ด.ช. ไชยภัทร สัมพันธ์ พูดถึงบ้านของตนด้วยความภาคภูมิใจ

กิจกรรมหลากหลายรองรับนักท่องเที่ยวสายชิลล์ และขาลุยอาทิ ชมทะเลหมอกยามเช้า เดินเที่ยวป่าต้นน้ำแวะเล่นน้ำตกบางคุย เที่ยวถ้ำน้ำลอด และเก็บพืชผักสดๆ นานาชนิดในป่าชุมชนมาปรุงอาหารธรรมชาติตามฤดูกาลแต่กว่าจะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ ชุมชนถ้ำผึ้งแห่งนี้ผ่านบทเรียนครั้งใหญ่มาแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนพื้นที่ป่าบ้านถ้ำผึ้งเป็นเขตสัมปทานป่าไม้ ชาวบ้านได้รวมตัวยืดหยัดต่อสู้เพื่ออนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 จนกระทั่งมีการปิดสัมปทานเมื่อพ.ศ. 2532 จึงร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่ากำหนดกฎระเบียบ ข้อบังคับและคัดเลือกคณะกรรมการป่าชุมชนในการดำเนินบริหารจัดการป่าแบ่งเป็นโซนป่าต้นน้ำ ป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ และป่าอาหารชุมชนปลูกพืชผัก ปลูกไม้ผลไม้ป่าแซมลงไปในป่าเดิม ปัจจุบันกลายเป็นป่าผืนใหญ่กว่า2,000 ไร่ เป็นแหล่งต้นน้ำ แหล่งอาหาร แหล่งรายได้ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยว โอบอุ้มทุกชีวิตให้มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี

แจ๊ค ด.ช. ธนภัทร หมุนชูเล่าว่า“ชอบเข้าป่าครับ เดินเหนื่อย แต่เย็นสบาย เพราะมีต้นไม้เยอะ ในป่ามีผักเหลียง มีเห็ด มีระกำ มีไข่มดแดง มีหน่อไม้ ตามฤดูกาล เหมือนเป็นตลาดเลย”

เมื่อใช้ประโยชน์จากป่าแล้วช่วยกันดูแล ทำให้ช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านรุ่นพ่อๆแม่ๆ เมื่อถามเด็กๆบ้านถ้ำผึ้งว่า มีป่าแล้วมันดีอย่างไร แจ๊คเล่าว่า “อยากกินอะไรก็ไม่ต้องซื้อ แต่ต้องมาหาเอง ตอนนี้ดอกปุด กำลังบานเต็มป่า ต้องสังเกตดีๆ ถึงจะเห็น ผมชอบกินหน่อปุดเอาไปแกงคั่ว”

นอกจากจะได้ความอิ่มอร่อยโดยไม่ต้องใช้เงินซื้อหาแล้วการได้เล่นซุกซน ปีนป่ายต้นไม้ตามประสาเด็กๆ นั่นคือการสร้างความทรงจำอันแสนสนุกของเด็กๆ ที่ควรจะมี

ลุงบุญทัน บุญชูคำหนึ่งในสมาชิกผู้บุกเบิกฟื้นฟูการอนุรักษ์ป่ากล่าวว่า“โชคดีที่คนรุ่นก่อนคิดไว้ให้เรา แล้วเราเองช่วยกันรักษาเมื่อเราฟื้นฟูสภาพป่าได้ แล้วแหล่งน้ำ แหล่งอาหารจะกลับมา”

แต่การรักษาป่าให้เขียวขจีเหมือนทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ผู้ใหญ่ในชุมชนก็ยังเลือกรักษาป่าโดยใช้วิธีสร้าง “จิตสำนึก”ให้เด็กมีความรู้สึกรักหวงแหนป่า ซึ่งไม่เพียงแต่ที่ใช้เพียงคำพูดสอนเด็กหากแต่ให้เด็กๆได้สัมผัส ลงพื้นที่และได้ใช้ประโยชน์จากป่าด้วยตนเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *